ข่าวสารนํ้าบาดาล

ทส. เปิดจุดจ่ายน้ำบาดาล 132 แห่ง ทั่วประเทศหนุนโครงการ “ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจช่วยภัยแล้ง” แก้ปัญหาขาดแคลนน้ำ

  • อัพเดทวันที่ 26 มี.ค. 62
  • อ่าน 5,961
  • เผยแพร่โดย ธิราพร ศรีรัตน์
Email
อัลบั้มภาพ 22 ภาพ

     รัฐบาลขอประชาชนคลายกังวล ฤดูแล้งนี้มีน้ำกินน้ำใช้เพียงพอ ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้ตั้งศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง ปี 2562 แค่ประชาชน โทร. 0 2666 7099 แจ้งขอความช่วยเหลือด้านน้ำบาดาล เจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว พร้อมกันนี้ได้จับมือกับ กองทัพบก การประปาส่วนภูมิภาค การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดโครงการ “ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจช่วยภัยแล้ง” สนับสนุนจุดจ่ายน้ำ 132 แห่งทั่วประเทศ เพื่อบรรเทาปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคของประชาชนตลอดฤดูแล้ง

     โครงการ “ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจช่วยภัยแล้ง” ประจำปี 2562 มี 5 หน่วยงานหลัก ได้แก่ กองทัพบก  การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ร่วมกันจัดขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ประสบปัญหาภัยแล้งจากการขาดแคลนแหล่งน้ำสะอาดสำหรับอุปโภคบริโภค ดังนั้น กองทัพบกได้ประสานความร่วมมือกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เพื่อร่วมกันผนึกกำลังพล แหล่งน้ำสะอาด รถบรรทุกน้ำ กระแสไฟฟ้า และน้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึงเครื่องจักรอุปกรณ์ที่จำเป็นในการช่วยเหลือประชาชน ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม - 30 กันยายน 2562 หรือจนกว่าสถานการณ์ภัยแล้งจะคลี่คลาย โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ให้การสนับสนุนจุดจ่ายน้ำ จำนวน 132 แห่ง ทั่วประเทศ เพื่อใช้เป็นจุดแจกจ่ายน้ำบาดาลสะอาดให้แก่กองทัพบกที่มีกำลังพล พร้อมรถบรรทุกน้ำเข้าไปรับน้ำจากจุดจ่ายน้ำ และนำไปแจกจ่ายให้แก่ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยแล้ง  

     โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม 2562 นายกุศล  โชติรัตน์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล พร้อมด้วย พลเอกวิจักขฐ์ สิริบรรสพ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก นางจุฑาพรรธน์  แก้ววัฒนะบวร ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค นายนพรัตน์  เมธาวีกุลชัย ผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค และนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกันแถลงข่าวเปิดโครงการ “ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจช่วยภัยแล้ง” ประจำปี 2562 และปล่อยขบวนคาราวานช่วยเหลือและบรรเทาปัญหาภัยแล้งให้แก่ประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ณ กองบัญชาการกองทัพบก

     นายกุศล  โชติรัตน์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมรับมือฤดูแล้งที่จะทวีความรุนแรงเทียบเท่ากับปี 2557 และมีพื้นที่เสี่ยงที่จะขาดแคลนน้ำในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางบางส่วน ทั้งนี้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้คาดการณ์ว่า จะมีพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งที่ต้องเฝ้าระวัง 7 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ นครสวรรค์ ชัยภูมิ นครราชสีมา เลย กาญจนบุรี และราชบุรี ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้เตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือประชาชนตั้งแต่เดือนมกราคม 2562 ที่ผ่านมา โดยมีการตรวจสอบสภาพบ่อน้ำบาดาล เครื่องสูบน้ำ ระบบประปาบาดาล และระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำ ให้พร้อมใช้งานเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้ง โดยดำเนินการดังนี้ 1) จัดเตรียมจุดจ่ายน้ำถาวร 132 จุด เพื่อให้บริการน้ำสะอาดแก่ประชาชนในพื้นที่ขาดแคลนน้ำทั่วประเทศ 2) เร่งรัดการเจาะบ่อน้ำบาดาลในพื้นที่เสี่ยงที่จะขาดแคลนน้ำให้แล้วเสร็จภายในเดือนเมษายน 2562 เป้าหมายรวม 737 แห่ง 3) จัดหน่วยนาคราชลงพื้นที่ปฏิบัติงาน เพื่อติดตามตรวจสอบและให้คำแนะนำแก่ประชาชนในการซ่อมบำรุงและดูแลรักษาบ่อน้ำบาดาลและระบบประปาบาดาลให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และ 4) นำรถปรับปรุงคุณภาพน้ำบาดาลผลิตน้ำดื่มสะอาดเข้าไปให้บริการแก่ประชาชนในพื้นที่ขาดแคลนน้ำบริโภค

     สำหรับปีงบประมาณ 2562 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้รับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลในการช่วยเหลือและบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรให้แก่ประชาชนผ่านโครงการต่างๆ เป้าหมายรวมกว่า 1,894 แห่ง ซึ่งหากดำเนินการแล้วเสร็จทั้งหมดจะสามารถให้บริการประชาชนได้กว่า 129,097 ครัวเรือน มีพื้นที่ได้รับประโยชน์  ไม่น้อยกว่า 41,760 ไร่ และปริมาณน้ำที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้กว่า 44 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ซึ่งขณะนี้ดำเนินการแล้วเสร็จกว่า 1,167 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 61.62

     ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือด้านน้ำบาดาลได้ที่ โทรศัพท์ 0 2666 7099 และระบบขอความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งออนไลน์ http://1310.dgr.go.th เพื่อกรมทรัพยากรน้ำบาดาลจะได้ประสานให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือต่อไป