ข่าวสารนํ้าบาดาล

“รมว.สุชาติ” มอบนโยบาย ทส. ในโอกาสครบรอบ 23 ปี มุ่งเป้าพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วัดผลได้ในระยะเวลา 4 เดือน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนของประชาชน

  • อัพเดทวันที่ 3 ต.ค. 68
  • อ่าน 84
  • เผยแพร่โดย T ADMIN
Email

     วันที่ 3 ตุลาคม 2568 เวลา 08.30 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย ดร.ชญานันท์ ภักดีจิตต์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำคณะผู้บริหาร ข้าราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่ ร่วมสักการะพระพุทธสยัมภู พระพุทธรูปประจำกระทรวงฯ และศาลพระภูมิเจ้าที่ เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ครบรอบ 23 ปี พร้อมจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลในการปฏิบัติหน้าที่ และเสริมพลังใจให้แก่บุคลากรในสังกัด ทส. ในการปกป้อง ดูแล และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศ โดยนายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล นายปริญญา คุ้มสระพรม รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และนายณัฐ โก่งเกษร รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล พร้อมผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้เข้าร่วมในงานดังกล่าวด้วย

 

     ภายหลังพิธี นายสุชาติ ได้มอบนโยบายการขับเคลื่อนงานของ ทส.  โดยเน้นย้ำการทำงานใน 5 ด้านสำคัญ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายใน 4 เดือน ได้แก่

     1) การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติเพื่อประชาชน โดยให้ความสำคัญกับงานตามพระราชดำริ รวมถึงการแก้ไขปัญการกัดเซาะชายฝั่งอย่างมีส่วนร่วม เร่งรัดกฎหมายสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม และการผลักดันการพัฒนาแหล่งน้ำทั้งผิวดินและใต้ดินเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้แก่ประชาชน

     2) การส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ทส. ให้เป็นแหล่งรายได้และสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน การอนุรักษ์และฟื้นฟูพื้นที่ป่า การส่งเสริมให้คนอยู่กับป่าได้อย่างยั่งยืน และเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายป่าอย่างจริงจัง ควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนที่ได้รับสิทธิให้อยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ป่า

     3) การป้องกันและแก้ไขปัญหาพิบัติภัยทางธรรมชาติ ด้วยการยกระดับศูนย์เตือนภัยของ ทส. ทั้งการเฝ้าระวังด้านน้ำและด้านธรณีพิบัติภัย รวมถึงการพัฒนาเครือข่ายเตือนภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างมีส่วนร่วมกับชุมชน

     4) การจัดการสิ่งแวดล้อมโดยการมีส่วนร่วม โดยเฉพาะการเร่งเตรียมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และบูรณาการความร่วมมือการป้องกันแก้ไขปัญหาร่วมกับกระทรวงมหาดไทยอย่างเป็นเอกภาพ

     5) การเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการประชาชน ด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและ AI เพื่อการให้บริการประชาชนที่ครอบคลุม ให้บริการได้ทุกพื้นที่ ทุกรูปแบบ เกิดความโปร่งใส รวดเร็ว และตรวจสอบได้

 

     นอกจากนี้ นายสุชาติ ยังได้เน้นย้ำถึงการให้ความสำคัญกับการดูแลขวัญและกำลังใจของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในแต่ละหน่วยงาน โดยขอให้ผู้บริหารทุกหน่วยงานให้ความสำคัญ รวมถึงการทำงานต่าง ๆ ต้องมีแผนงานที่ชัดเจน เพื่อให้การดำเนินงานทั้งหมดสามารถวัดผลได้ภายในระยะเวลา 4 เดือนของรัฐบาล และประชาชนสัมผัสได้ถึงผลการปฏิบัติงานอย่างเป็นรูปธรรม ให้ ทส. สามารถเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างแท้จริง และก้าวไปข้างหน้าด้วยความโปร่งใสและมั่นคง