1) หลักการและเหตุผลของโครงการ
ในขณะที่ปริมาณน้ำจากแหล่งน้ำขนาดใหญ่มีแนวโน้มที่จะลดลง อยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวังน้ำน้อย ต้องรักษาไว้เพื่อให้สามารถใช้ได้อย่างเพียงพอสำหรับ 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่ เพื่อการอุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศ และผลักดันน้ำเค็ม ส่งผลให้ปริมาณน้ำไม่เพียงพอกับความต้องการของประชาชน ทำให้มีความเสี่ยงที่จะประสบปัญหาวิกฤติภัยแล้งอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชนและองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น ที่มีหน้าที่และความรับผิดชอบในการจัดหาแหล่งน้ำเพื่อใช้สำหรับการอุปโภคบริโภคต้องดำเนินการจัดหาแหล่งน้ำเพื่อตอบสนองต่อความต้องการใช้น้ำของประชาชนในพื้นที่ประสบภัยแล้ง และประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งได้อย่างทันท่วงที
อีกทั้ง ความเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจและสังคมที่มากขึ้น ทำให้การขยายตัวของความเป็นเมืองมากขึ้น ชุมชนมีขนาดใหญ่ขึ้น ความต้องการน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคจึงมากขึ้นตามไปด้วย ปัญหาเรื่องน้ำจึงเป็นปัญหา ที่ได้รับความสําคัญเป็นลําดับแรกๆ เนื่องจากวิกฤติด้านน้ำมีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงมากขึ้น ประเทศที่ขาดการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำที่ดี และไม่มีความมั่นคงในด้านน้ำ จะพบกับอุปสรรคและข้อจํากัดต่างๆในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ดังนั้น การสร้างความมั่นคงทางด้านน้ำ จึงเป็นสิ่งจําเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย
เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าว และเพิ่มความมั่นคงในการเข้าถึงแหล่งน้ำ อีกทั้งเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนยามเกิดสภาวะภัยพิบัติ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล จึงได้จัดทำ “โครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อความมั่นคงระดับชุมชน” ขึ้น โดยได้ทำการสำรวจความเหมาะสมทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพน้ำบาดาลเพื่อให้ทราบถึงศักยภาพน้ำบาดาลที่เหมาะสมสำหรับการวางแผนในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำบาดาล โดยมีพื้นที่สำรวจทั่วประเทศ ซึ่งจากการสำรวจ พบว่ามีหลายพื้นที่ที่มีพื้นที่ศักยภาพมีความเหมาะสมในการดำเนินโครงการ
2) วัตถุประสงค์
2.1 เพื่อการพัฒนาบ่อน้ำบาดาล และก่อสร้างระบบกระจายน้ำบาดาลเพื่อความมั่นคงระดับชุมชน ในพื้นที่ที่มีศักยภาพน้ำบาดาลเหมาะสมทั้งปริมาณและคุณภาพ เพื่อรองรับการแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำสะอาดเพื่ออุปโภคบริโภคเมื่อเกิดสภาวะภัยพิบัติ
2.2 เพื่อส่งมอบการบริหารจัดการระบบประปาบาดาลและส่งเสริมให้กลุ่มประชาชนที่ใช้น้ำบาดาลในพื้นที่มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการน้ำบาดาล ให้มีการใช้น้ำบาดาลอย่างคุ้มค่า มีประสิทธิภาพ และยั่งยืน
3) กิจกรรม/วิธีดำเนินการ
ดำเนินงานโครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อความมั่นคงระดับชุมชน โดยมีขั้นตอนการดำเนินงาน ดังนี้
3.1) สำรวจ คัดเลือกพื้นที่ที่มี ศักยภาพเหมาะสม
(1) กำหนดเกณฑ์การคัดเลือกพื้นที่ที่มีศักยภาพเหมาะสม
(2) รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลปฐมภูมิและทุติยภูมิที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดปัจจัยและวางแผนการดำเนินงานสำรวจภาคสนามต่อไป รวมทั้งรวบรวมและทบทวนข้อมูลเบื้องต้นด้านสภาพธรณีวิทยา อุทกธรณีวิทยา ศักยภาพน้ำบาดาลทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพน้ำบาดาล เป็นต้น เพื่อวิเคราะห์พื้นที่น้ำบาดาลที่มีศักยภาพในการพัฒนาโครงการ
(3) สำรวจข้อมูลภาคสนามเพิ่มเติม ประกอบด้วย ข้อมูลทางด้านธรณีวิทยา ธรณีวิทยาสัณฐานอุทกธรณีวิทยาและข้อมูลบ่อน้ำบาดาล พร้อมทั้งทำการตรวจวัดระดับและคุณภาพน้ำบาดาล สำรวจธรณีฟิสิกส์บนผิวดิน (Surface Geophysical Investigation) เพื่อหาขอบเขตการแผ่กระจายตัวของหน่วยหินทางอุทกธรณีวิทยา (Boundary of Hydrogeological Units) และลักษณะของชั้นดินชั้นหิน ด้วยวิธีวัดค่าความต้านทานไฟฟ้าจำเพาะในแนวดิ่ง (Resistivity Survey Method, Vertical Electrical-Resistivity Sounding, VES) ตามรูปแบบการจัดวางขั้วไฟฟ้าแบบชลัมเบอร์เจอร์ (Schlumberger Configuration) ที่มีระยะห่างระหว่างขั้วปล่อยกระแสไฟฟ้า (AB/2) ไม่น้อยกว่า 200 เมตร รวมถึงทำการแปลความหมายข้อมูลด้านอุทกธรณีที่ได้จากการสำรวจธรณีฟิสิกส์ เพื่อกำหนดพื้นที่ที่มีศักยภาพน้ำบาดาลเบื้องต้น และกำหนดตำแหน่งบ่อเจาะสำรวจ ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสำนักทรัพยากรน้ำบาดาลเขต 1 - 12 ดำเนินการโดยสำนักทรัพยากรน้ำบาดาลเขต จำนวน 85 แห่ง ทั่วประเทศ
3.2) การเจาะและพัฒนาบ่อ
(1) ดำเนินการเจาะบ่อสำรวจและพัฒนาบ่อโดยมีรูปแบบการก่อสร้างบ่อตามมาตรฐานของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 6 นิ้ว พร้อมทั้งเก็บตัวอย่างดิน-หิน ที่ความลึกทุกๆ 1 เมตร โดยต้องติดแผ่นป้ายแสดงหมายเลขบ่อ ความลึกเจาะ และความลึกพัฒนา ตามรูปแบบมาตรฐานของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล พื้นที่ละ 2 บ่อ จำนวน 85 แห่ง ทั่วประเทศ
(2) ดำเนินการหยั่งธรณีฟิสิกส์ในหลุมเจาะ (Geophysical borehole logs or Electric logs) ของหลุมเจาะในข้อ 5.2.1 โดยทำการตรวจวัดค่าต่าง ๆ เช่น SP SPR RSN RLN
(3) สูบทดสอบปริมาณน้ำด้วยอัตราการสูบคงที่ (Constant-rate Pumping Test) ของบ่อน้ำบาดาลในข้อ 5.2.1 โดยดำเนินการสูบทดสอบปริมาณน้ำ เป็นระยะเวลา 10 ชั่วโมง หรือจนกว่าระดับน้ำจะคงที่ไม่น้อยกว่า 4 ชั่วโมง และวัดระดับน้ำคืนตัว (Recovery Test) จนกว่าระดับน้ำจะคืนตัวถึงระดับน้ำก่อนสูบ โดยดำเนินการสูบทดสอบเพื่อหาคุณสมบัติทางชลศาสตร์ของชั้นน้ำบาดาล (Hydraulic Properties of Aquifers) ได้แก่ สัมประสิทธิ์การจ่ายน้ำ (Transmissivity, T) สัมประสิทธิ์การยอมให้น้ำซึมผ่าน (Hydraulic Conductivity, K) และสัมประสิทธิ์การกักเก็บ (Storativity, S) เพื่อนำไปกำหนดขนาดเครื่องสูบน้ำบาดาล พร้อมทั้งเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อทำการวิเคราะห์คุณภาพน้ำ
(4) ตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำทั้งทางกายภาพและทางเคมี (Physical and chemical quality of groundwater) แบบสมบูรณ์ เพื่อนำไปวิเคราะห์ให้ทราบถึงคุณภาพน้ำบาดาลทั้งทางกายภาพและทางเคมีแบบสมบูรณ์ ทั้งนี้ การตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำดังกล่าว อ้างอิงตามพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. 2520 ยกเว้นในกรณีที่พบสารปนเปื้อนหรือค่าผิดปกติที่จะมีผลต่อชั้นน้ำบาดาลสามารถปรับเปลี่ยนจำนวนตัวอย่างและการตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำบาดาลได้ตามความเหมาะสม
(5) การวิเคราะห์ แปลความหมายและประมวลผลข้อมูลต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น เพื่อให้ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคุณลักษณะในด้านต่างๆ ของชั้นน้ำบาดาลทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพน้ำบาดาล
(6) ออกแบบอาคารศูนย์การเรียนรู้ด้านน้ำบาดาล และระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำบาดาลภายใต้มาตรฐานน้ำดื่มด้วยวิธี REVERSE OSMOSIS (RO) เพื่อให้ความรู้ทางวิชาการน้ำบาดาล ประวัติความเป็นมา
ของแหล่งน้ำบาดาลในพื้นที่ การใช้ประโยชน์จากน้ำบาดาลและการอนุรักษ์แหล่งน้ำบาดาลให้เกิดความยั่งยืน จำนวน 85 แห่ง
3.3) การก่อสร้างระบบกระจายน้ำบาดาลเพื่อความมั่นคงระดับชุมชน
ก่อสร้างระบบกระจายน้ำบาดาลให้แก่ชุมชน จำนวน 85 แห่ง ทั่วประเทศ
3.4) ติดตามความก้าวหน้าของการดำเนินการ
ติดตามความก้าวหน้าของการดำเนินการในแต่ละกิจกรรมให้เป็นไปตามแผนงานที่กำหนด รวมทั้งจัดทำรายงานสรุปผลการดำเนินงานโครงการ
4) แผนผังงานก่อสร้างของโครงการ
หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการ
1. พื้นที่มีความเดือดร้อนจริง
2. ท้องถิ่นมีความพร้อมในการมอบพื้นที่ก่อสร้าง
3. ท้องถิ่นมีความพร้อมในการรับมอบการบริหารจัดการและดูแลระบบให้ยั่งยืน
4. จำนวนผู้ได้รับประโยชน์ ไม่น้อยกว่า 200 ครัวเรือน
5. ศักยภาพน้ำบาดาลในพื้นที่ ประมาณ 7 - 10 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง/บ่อ
5) สถานที่ดำเนินการ
โครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อความมั่นคงระดับชุมชน จำนวน 85 แห่ง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 มีรายละเอียดสถานที่ดังนี้
(1) บ้านหนองห่าย หมู่ที่ 1 ตำบลข่วงเปา อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
(2) บ้านร่องเสี้ยว หมู่ที่ 5 ตำบลน้ำชำ อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่
(3) บ้านเขลางค์ทอง หมู่ที่ 12 ตำบลบ่อแฮ้ว อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง
(4) บ้านทุ่งโป่ง หมู่ที่ 17 ตำบลหนองปรือ อำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี
(5) บ้านหนองปรือ หมู่ที่ 1 ตำบลหนองปรือ อำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี
(6) บ้านแหลมยาง หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านกล้วย อำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท
(7) บ้านหนองกรวด หมู่ที่ 3 ตำบลหัวหวาย อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์
(8) บ้านโป่งสรรค์ หมู่ที่ 12 ตำบลนิคมเขาบ่อแก้ว อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์
(9) บ้านบึงสัมพันธ์ หมู่ที่ 1 ตำบลบึงกาสาม อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี
(10) บ้านหันสัง หมู่ที่ 6 ตำบลหันสัง อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
(11) บ้านดอนแค-ดงตาล หมู่ที่ 6 ตำบลป่าสะแก อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี
(12) บ้านพุข่อย หมู่ที่ 2 ตำบลหนองมะค่าโมง อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี
(13) บ้านหนองแก หมู่ที่ 16 ตำบลด่านช้าง อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี
(14) บ้านอบทม หมู่ที่ 6 ตำบลยี่ล้น อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง
(15) บ้านหนองผักกระเฉด หมู่ที่ 14 ตำบลวังดาล อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี
(16) บ้านบุ่งคล้าใต้ หมู่ที่ 14 ตำบลบุ่งคล้า อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์
(17) บ้านคลองเหมืองไทย หมู่ที่ 12 ตำบลน้ำชุน อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์
(18) บ้านบ่อน้ำ หมู่ที่ 5 ตำบลหนองยายโต๊ะ อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี
(19) บ้านเขาช่องลม หมู่ที่ 3 ตำบลลำสมพุง อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี
(20) บ้านโนนศรีสวัสดิ์ หมู่ที่ 7 ตำบลนาบอน อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์
(21) บ้านหนองม่วง หมู่ที่ 7 ตำบลโนนหัน อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น
(22) บ้านนาโพธิ์ หมู่ที่ 1 ตำบลนาโพธิ์ อำเภอกุดรัง จังหวัดมหาสารคาม
(23) บ้านแก้วเมธี หมู่ที่ 5 ตำบลนาด้วง อำเภอนาด้วง จังหวัดเลย
(24) บ้านบุญทัน หมู่ที่ 9 ตำบลบุญทัน อำเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบัวลำภู
(25) บ้านดอนดู่ หมู่ที่ 5 ตำบลบ้านเต่า อำเภอบ้านแท่น จังหวัดชัยภูมิ
(26) บ้านท่าคร้อ หมู่ที่ 3 ตำบลหนองข่า อำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ
(27) บ้านสระผักโพด หมู่ที่ 2 ตำบลครบุรีใต้ อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา
(28) บ้านฉันเพล หมู่ที่ 5 ตำบลโคกม้า อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์
(29) บ้านยาง หมู่ที่ 3 ตำบลตาอ็อง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์
(30) บ้านนา หมู่ที่ 3 ตำบลคลองพน อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่
(31) บ้านคลองชะมวง หมู่ที่ 8 ตำบลพรุดินนา อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่
(32) บ้านคลองหมาก หมู่ที่ 3 ตำบลคลองขนาน อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่
(33) บ้านเขาข่า หมู่ที่ 11 ตำบลละแม อำเภอละแม จังหวัดชุมพร
(34) บ้านหนองเนียน หมู่ที่ 11 ตำบลบางลึก อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร
(35) บ้านทุ่งหลา หมู่ที่ 4 ตำบลควนธานี อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง
(36) บ้านกะลาเส หมู่ที่ 2 ตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง
(37) บ้านต้นขี้ใต้ หมู่ที่ 4 ตำบลทุ่งต่อ อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง
(38) บ้านทุ่งปอนด์ หมู่ที่ 1 ตำบลหลักช้าง อำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช
(39) บ้านกรุงหยันใต้ หมู่ที่ 3 ตำบลกรุงหยัน อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช
(40) บ้านบางทองคำ หมู่ที่ 9 ตำบลบ้านเนิน อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช
(41) บ้านพรุเตียว หมู่ที่ 7 ตำบลบางนายสี อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา
(42) บ้านป่าคลอก หมู่ที่ 2 ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต
(43) บ้านบางกล้วยนอก หมู่ที่ 3 ตำบลนาคา อำเภอสุขสำราญ จังหวัดระนอง
(44) บ้านนาลึก หมู่ที่ 2 ตำบลท่าชี อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี
(45) บ้านธารอารี หมู่ที่ 8 ตำบลบ้านนา อำเภอบ้านนาเดิม จังหวัดสุราษฎร์ธานี
(46) บ้านสหกรณ์ หมู่ที่ 3 ตำบลทรงธรรม อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร
(47) บ้านป่ายางเหนือ หมู่ที่ 2 ตำบลย่านรี อำเภอสามเงา จังหวัดตาก
(48) บ้านสระประทุม หมู่ที่ 6 ตำบลไผ่รอบ อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร
(49) บ้านแม่รากใต้ หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านตึก อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย
(50) บ้านหนองแหน หมู่ที่ 1 ตำบลวัดเกาะ อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย
(51) บ้านพระแท่น หมู่ที่ 6 ตำบลทุ่งยั้ง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์
(52) บ้านเกาะมะขาม หมู่ที่ 4 ตำบลพะเนียด อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม
(53) บ้านหนองตาเมือง หมู่ที่ 6 ตำบลธงชัย อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
(54) บ้านแม่เบื้อ หมู่ที่ 7 ตำบลท่าแลง อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี
(55) บ้านรางม่วง หมู่ที่ 8 ตำบลจอมบึง อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี
(56) บ้านลาดใหญ่ หมู่ที่ 5 ตำบลลาดใหญ่ อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม
(57) บ้านหนองคล้า หมู่ที่ 3 ตำบลทุ่งเบญจา อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี
(58) บ้านลำชะล่า หมู่ที่ 14 ตำบลดอนฉิมพลี อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา
(59) บ้านโรงสี หมู่ที่ 6 ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
(60) บ้านเนินยาง หมู่ที่ 4 ตำบลห้วยแร้ง อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด
(61) บ้านเขาคลอก หมู่ที่ 6 ตำบลสำนักท้อน อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง
(62) บ้านเขาช่องแคบ หมู่ที่ 12 ตำบลคลองหาด อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว
(63) บ้านทรัพย์นิยม หมู่ที่ 2 ตำบลวังน้ำเย็น อำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว
(64) บ้านหนองสะโน หมู่ที่ 7 ตำบลโพนสวรรค์ อำเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม
(65) บ้านนาโพธิ์ หมู่ที่ 17 ตำบลบ้านผึ้ง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม
(66) บ้านโพธิ์เงิน หมู่ที่ 9 ตำบลคอนสวรรค์ อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร
(67) บ้านดงเหล่า หมู่ที่ 8 ตำบลโพนทอง อำเภอโพธิ์ตาก จังหวัดหนองคาย
(68) บ้านโนนทอง หมู่ที่ 7 ตำบลเชียงเพ็ง อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี
(69) บ้านคำ หมู่ที่ 2 ตำบลคำเลาะ อำเภอไชยวาน จังหวัดอุดรธานี
(70) บ้านนาคำแก้ว หมู่ที่ 13 ตำบลนาข่า อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี
(71) บ้านแดง หมู่ที่ 11 ตำบลบ้านแดง อำเภอพิบูลย์รักษ์ จังหวัดอุดรธานี
(72) บ้านหนองบั่ว หมู่ที่ 5 ตำบลช้างเผือก อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด
(73) บ้านชำ หมู่ที่ 1 ตำบลชำ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ
(74) บ้านไร่ใต้ หมู่ที่ 4 ตำบลไร่ใต้ อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี
(75) บ้านสุไหงบาลา หมู่ที่ 5 ตำบลมะนังตายอ อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส
(76) บ้านบาโย หมู่ที่ 8 ตำบลบาโงสะโต อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส
(77) บ้านโคกโพธิ์ หมู่ที่ 7 ตำบลโคกโพธิ์ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี
(78) บ้านยางแดง หมู่ที่ 4 ตำบลนาประดู่ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี
(79) บ้านพังกิ่ง หมู่ที่ 2 ตำบลสมหวัง อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง
(80) บ้านหวังตก หมู่ที่ 3 ตำบลสมหวัง อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง
(81) บ้านจำปูน หมู่ที่ 6 ตำบลท่าธง อำเภอรามัน จังหวัดยะลา
(82) บ้านกระอาน หมู่ที่ 4 ตำบลท่าม่วง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา
(83) บ้านควนหรัน หมู่ที่ 10 ตำบลท่าม่วง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา
(84) บ้านกาลูบี หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านควน อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล
(85) บ้านผัง 20 หมู่ที่ 8 ตำบลนิคมพัฒนา อำเภอมะนัง จังหวัดสตูล
6) ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
(1) มีแหล่งน้ำบาดาลเหมาะสมทั้งปริมาณและคุณภาพ เพื่อรองรับการแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำสะอาดเพื่ออุปโภคบริโภคและเมื่อเกิดสภาวะภัยพิบัติ และประชาชนได้รับผลประโยชน์ไม่น้อยกว่า 17,000 ครัวเรือน
(2) มีระบบกระจายน้ำบาดาลเพื่อความมั่นคงระดับชุมชนให้แก่ชุมชนที่ขาดแคลนน้ำ จำนวน 85 ระบบ
(3) กลุ่มประชาชนที่ใช้น้ำบาดาลมีน้ำเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคไม่น้อยกว่า 7,446,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี ซึ่งในพื้นที่แต่ละพื้นที่มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการน้ำบาดาลและส่งเสริมให้มีการใช้น้ำบาดาลอย่างคุ้มค่า มีประสิทธิภาพ และยั่งยืน