ข่าวสารนํ้าบาดาล

               วันที่ 20 กันยายน 2566 นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมวิชาการด้านน้ำบาดาลแห่งชาติ ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ. 2566 ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 20 - 22 กันยายน 2566 ณ โรงแรมรามา การ์เด้นส์ กรุงเทพฯ ในหัวข้อ “น้ำบาดาลเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Groundwater for Sustainable Development)” โดยการจัดประชุมในครั้งนี้เป็นเวทีสำหรับนักวิชาการน้ำบาดาล ผู้มีส่วนได้เสียในการนำเสนอผลงานทางวิชาการ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ถ่ายทอดผลงานวิจัย นวัตกรรม โครงการต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ในการบริหารจัดการน้ำบาดาลของประเทศ ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำบาดาลของประเทศไทยให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด โดยจะเป็นประโยชน์แต่บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำบาดาลของประเทศ ซึ่งภายในงานมีผู้เข้าร่วมงานทั้งบุคลากรกรมทรัพยากรน้ำบาดาล บุคลากรทางการศึกษา ตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนอื่นๆ รวมกว่า 250 ราย

               ทั้งนี้ อธิบดีกมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวในพิธีเปิดการประชุมว่า "การบริหารจัดการน้ำบาดาล เกี่ยวเนื่องกับสภาวการณ์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดจนปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลให้สภาพแวดล้อมของโลกและประเทศไทยได้รับผลกระทบ เช่น รูปแบบของฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงไป การเพิ่มสูงขึ้นของอุณหภูมิ ปัญหาภัยแล้งและอุทกภัย ดังนั้นเพื่อสอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมทั้งในและนอกประเทศและแนวทางการพัฒนาประเทศ ส่งผลให้การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำบาดาลต้องมีการดำเนินการร่วมกับประชาชนอย่างสร้างสรรค์ เป็นธรรมและสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาบุคลากรด้านน้ำบาดาลให้มีความเข้มแข็งด้านวิชาการน้ำบาดาลเพื่อให้สามารถปฎิบัติงานได้ตามภารกิจ หน้าที่ของหน่วยงาน นโยบายรัฐบาล แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำบาดาลของรัฐบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของสังคม ประเทศและระหว่างประเทศ"

               ในการนี้ ดร.สุทธิพล เอี่ยมประเสริฐกุล ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาน้ำบาดาล ได้เป็นวิทยากรบรรยาย ในหัวข้อ "การพัฒนาน้ำบาดาลอย่างยั่งยืน" เพื่อเผยแพร่และนำเสนอการดำเนินงานของสำนักพัฒนาน้ำบาดาลภายใต้ภารกิจที่ได้รับมอบหมาย โดยคำนึงถึงประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด ลดการย้ายถิ่นฐาน ลดการสูญเสียผลผลิตทางการเกษตรจากภาวะภัยแล้ง ลดต้นทุนการผลิตทางการเกษตร ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม เพิ่มน้ำต้นทุน เพิ่มรายได้ครัวเรือน เพิ่มโอกาส เพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน เสริมความมั่นคงในอาชีพเกษตรกรรม และเสริมความมั่นคงในอาหาร ซึ่งเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) ประเด็นที่ 4 ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม และประเด็นที่ 5 ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม