ข่าวสารนํ้าบาดาล

การประชุมภาคีการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย ครั้งที่ 2 (Thailand Climate Action Conference: TCAC 2023)

  • อัพเดทวันที่ 9 ต.ค. 66
  • อ่าน 180
  • เผยแพร่โดย นรินทร์ภัทร สสิพรรณ์
Email
อัลบั้มภาพ 6 ภาพ

การประชุมภาคีการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย ครั้งที่ 2
(Thailand Climate Action Conference: TCAC 2023)
วันที่ 6 - 7 ตุลาคม 2566 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
“สานพลัง เสริมภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สร้างการพัฒนาที่ยั่งยืน”

 

                วันที่ 6 ตุลาคม 2566 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม ภาคีการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย ครั้งที่ 2 (Thailand Climate Action Conference: TCAC 2023) ภายใต้แนวคิด “สานพลัง เสริมภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สร้างการพัฒนาที่ยั่งยืน” โดยมีคณะรัฐมนตรี เอกอัครราชทูต องค์กรระหว่างประเทศ ผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ว่าราชการจังหวัด เข้าร่วมการประชุม

                นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งได้กลายมาเป็นปัญหาเร่งด่วนและทวีความรุนแรงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รัฐบาลไทยให้ความสำคัญและพยายามอย่างเต็มที่ในทุกวิถีทางเพื่อต่อสู้กับวิกฤติสำคัญนี้ ดังกล่าว อย่างไรก็ดี การแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในสังคม การประชุมฯ ในวันนี้จึงเป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนความคิด สร้างความร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ๆ และร่วมกันขับเคลื่อนในเชิงปฏิบัติ พร้อมเชื่อมั่นว่า หากทุกภาคส่วนร่วมมือกันอย่างจริงจัง จะสามารถบรรลุเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ร่วมกันได้ โดยกล่าวว่า “มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เห็นทุกภาคส่วนมาร่วมงานในวันนี้ หวังว่าการประชุมในวันนี้จะเป็นเวทีสำหรับการแลกเปลี่ยนความคิด เสริมสร้างความร่วมมือ และดำเนินงานร่วมกัน เพราะเชื่อว่าถ้าเราร่วมมือกัน เราสามารถบรรลุสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้”

               พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก และผลกระทบ ที่เกิดขึ้น ทั้งในลักษณะของการเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และการเกิดขึ้นอย่างช้าๆ ส่งผลกระทบต่อเนื่องมายังชีวิตความเป็นอยู่ สุขภาพ และอาชีพของประชาชน ความมั่นคงของมนุษย์ ตลอดจนความสูญเสียและความเสียหายทางเศรษฐกิจและสังคม ประชาคมโลก จึงร่วมมือรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวผ่านการดำเนินงาน ตามพันธกรณีระหว่างประเทศ ในฐานะรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พิธีสารเกียวโต และความตกลงปารีส ที่มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการลดก๊าซเรือนกระจก ที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลก

             ดังนั้น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคีเครือข่าย จึงได้จัดการประชุม ภาคีการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย ครั้งที่ 2 หรือ TCAC 2023 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ

                  (1) เป็นเวทีสร้างพลังขับเคลื่อน การดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย ในทุกระดับและทุกภาคส่วน ในการมุ่งสู่การบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ. 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี ค.ศ. 2065 และการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตามที่ได้แสดงเจตจำนงไว้ ต่อประชาคมโลก

                  (2) เผยแพร่ความก้าวหน้า การดำเนินงานในระดับโลก ผลการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การถ่ายทอดเป้าหมายระดับโลก มาสู่ทิศทางการดำเนินงานในประเทศไทย โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อให้รู้เท่าทันสถานการณ์ และร่วมกันสร้างความพร้อมในการนำไปสู่การปฏิบัติในทุกระดับ โดยเฉพาะในระดับพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม

              โอกาสนี้ นายกุศล โชติรัตน์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ดร.อรนุช หล่อเพ็ญศรี อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี พร้อมด้วย ดร.สุรินทร์ วรกิจธำรง รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และ นายยงยุทธ นาควิโรจน์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล นำคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลเข้าร่วมในงานดังกล่าว ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

              ในการนี้ ดร.สุทธิพล เอี่ยมประเสริฐกุล ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาน้ำบาดาล พร้อมด้วยบุคลากรสำนักพัฒนาน้ำบาดาล กว่า 20 ราย ได้เข้าร่วมการประชุมฯ เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและตระหนักรู้ในการดำเนินงานของประเทศ โดยเล็งเห็นถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นหนึ่งในวาระสำคัญของชาติ มุ่งสนับสนุนการเตรียมความพร้อมในการปรับตัวเพื่อลดความสูญเสีย และลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อนำไปสู่ความมั่นคงและยั่งยืนของประเทศไทยต่อไป