ข่าวสารนํ้าบาดาล

     กลุ่มเกษตรกรบ้านซับรวงไทร ตำบลนาเสียว อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ กล่าวขอบคุณรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ได้มอบหมายให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาล โดยสำนักทรัพยากร น้ำบาดาล เขต 5 นครราชสีมา เร่งจัดหาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อการเพาะปลูกพืชสวนและพืชไร่ตลอดทั้งปี ช่วยชุบชีวิตให้เกษตรกรมีรายได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ลำบากและไม่ต้องไปหางานทำไกลบ้าน

     นางสาวฉลวย ชัยภูมิ อยู่บ้านเลขที่ 35 หมู่ที่ 4 ตำบลนาเสียว อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ หนึ่งในสมาชิกกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับการสนับสนุนโครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อการเกษตร รูปแบบที่ 1 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 เปิดเผยว่า “ตั้งแต่ที่หมู่บ้านได้รับโครงการน้ำเกษตรก็ทำให้มีน้ำปลูกพืชผักได้ตลอดทั้งปี ว่างจากทำนาปีในช่วงหน้าฝนก็สามารถปลูกพืชผักสวนครัว เช่น ถั่วลิสง พริก มะเขือ สะระแหน่ ตะไคร้ ข่า กล้วย ผักบุ้ง แมงลัก ซึ่งปลูกได้ตลอดเพราะเรามีน้ำรดผักทุกวัน ช่วงหน้าหนาวผักก็จะงามออกดอกออกผลเยอะ ก็ทำให้ชีวิตของทุกคนดีขึ้น ไม่ลำบาก ไม่ต้องไปรับจ้างทำงานไกลบ้าน สบายใจได้กินอิ่ม ได้เงิน ผักก็ไม่ต้องซื้อ”

     สำหรับพื้นที่ดังกล่าวในอดีตประสบปัญหาขาดแคลนแหล่งน้ำผิวดินในการเพาะปลูกเนื่องจากอยู่ในสภาพพื้นที่สูงไม่สามารถกักเก็บน้ำไว้ได้ ต่อมากลุ่มเกษตรกรจึงได้มีการจัดตั้งกลุ่มและร้องขอการสนับสนุนแหล่งน้ำในการทำเกษตรกรรม กรมทรัพยากรน้ำบาดาล โดยสำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 5 นครราชสีมา จึงได้จัดสรรงบประมาณดำเนินโครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อการเกษตร รูปแบบที่ 1 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 โดยมีสมาชิกกลุ่มเกษตรกรผู้ใช้น้ำบาดาล จำนวน 37 ราย ครอบคลุมพื้นที่การเกษตร จำนวน 35 ไร่ ซึ่งส่วนใหญ่นิยมปลูกข้าวนาปีในฤดูฝนและปรับเปลี่ยนเพาะปลูกพืชไร่พืชสวนที่มีอายุเก็บเกี่ยวสั้นในช่วงฤดูแล้ง จึงทำให้สมาชิกกลุ่มเกษตรกรผู้ใช้น้ำบาดาลมีรายได้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี สำหรับการจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรสมาชิกกลุ่มเกษตรกรผู้ใช้น้ำบาดาลยังได้เปิดเผยว่า ส่วนใหญ่จะมีพ่อค้าเข้ามารับซื้อถึงที่ทำให้มีรายได้ทุกวันเฉลี่ยประมาณวันละ 300 – 1,000 บาท ขึ้นอยู่กับช่วงฤดูกาลแต่ถือว่าเป็นรายได้ที่ดีมากกว่าในอดีตหลายเท่า  นอกจากนี้ กลุ่มเกษตรกรยังมีการจัดตั้งโครงการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบบ้านซับรวงไทร เพื่อให้เป็นศูนย์เรียนรู้สำหรับเกษตรกรทั่วไป โดยมีจุดเด่นของกลุ่มคือ ความสามัคคีและการมีส่วนร่วมของสมาชิกทุกคนในการกำหนดแนวทางการบริหารจัดการโครงการฯ รวมถึงการจัดสรรการใช้น้ำบาดาลในการเพาะปลูก พร้อมกันนี้ ยังมีการกำหนดเก็บค่าใช้น้ำบาดาลในราคาย่อมเยาเพื่อนำเงินรายได้ไปใช้ในการซ่อมแซมบำรุงรักษาระบบกระจายน้ำ รวมถึงการนำเงินรายได้ไปใช้พัฒนาพืชพันธุ์ทางการเกษตรให้ดีขึ้น  สำหรับประโยชน์ของโครงการดังกล่าวนอกจากจะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้นแล้วยังช่วยสร้างครอบครัว ชุมชน สังคม ให้มีความเข้มแข็งมั่นคงและมีความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจอีกด้วย เน้นย้ำการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ยั่งยืนอย่างแท้จริง

     ทั้งนี้ มี ดร.อรนุช หล่อเพ็ญศรี รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล พร้อมด้วยนายสุรัตน์ บัวพันธ์ ผู้อำนวยสำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 5 นครราชสีมา และเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลรับผิดชอบโครงการลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ดังกล่าว เมื่อวันพุธที่ 16 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา

ที่มาและภาพข่าวโดย : กองสื่อสารและการมีส่วนร่วม
 ***หากต้องการภาพถ่ายหรือเนื้อหาข่าวต้นฉบับเพื่อใช้ประกอบกิจกรรมอื่นๆ กรุณาติดต่อ กองสื่อสารและการมีส่วนร่วม โทรศัพท์ : 0 2666 7008