ข่าวสารนํ้าบาดาล

หน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมถึงภาคอุตสาหกรรม มีเครื่องมือช่วยในการจัดหาแหล่งน้ำบาดาลและบริหารจัดการทรัพยากรน้ำบาดาลในระยะยาวที่มีความถูกต้องและแม่นยำ ภายใต้โครงการศึกษาสำรวจและจัดทำแผนที่น้ำบาดาลขั้นรายละเอียด มาตราส่วน 1:50,000 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง พื้นที่ 2 ประกอบด้วย จังหวัดสุรินทร์ ศรีษะเกษ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา ซึ่งจัดทำโดยสำนักสำรวจและประเมินศักยภาพน้ำบาดาล กรมทรัพยากรน้ำบาดาล พร้อมให้บริการประชาชนเดือนมิถุนายน 2560 นี้

สำนักสำรวจและประเมินศักยภาพน้ำบาดาล กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ดำเนินโครงการศึกษาสำรวจ และจัดทำแผนที่น้ำบาดาลขั้นรายละเอียด มาตราส่วน 1:50,000 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง พื้นที่ 2 เพื่อเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำบาดาลในระยะยาวอย่างสมดุล ซึ่งแผนที่น้ำบาดาล มาตราส่วน 1:50,000 จะเป็นข้อมูลทางวิชาการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้และอนุรักษ์น้ำบาดาลให้สอดรับกับสภาพปัญหา รวมทั้งเป็นฐานข้อมูลให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการพัฒนาน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ นอกจากนี้ ยังช่วยสนับสนุนให้ภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมที่ต้องการใช้น้ำบาดาลได้อย่างคุ้มค่าและไม่ส่งผลกระทบต่อระดับชั้นน้ำบาดาลในระยะยาว โดยหลังจากเสร็จสินโครงการกรมทรัพยากรน้ำบาดาลจะมีแผนที่อุทกธรณีวิทยาและแผนที่น้ำบาดาลขั้นรายละเอียด มาตราส่วน 1:50,000 ครอบคลุมพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และระบบฐานข้อมูลของระบบสารสนเทศอุทกธรณีวิทยาที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน เพื่อให้บริการหน่วยงานภาครัฐและจัดจำหน่ายให้แก่ภาคเอกชนต่อไป ซึ่งขั้นตอนการดำเนินงานแบ่งออกเป็นการสำรวจตรวจสอบข้อมูลภาคสนาม การเจาะบ่อสำรวจและพัฒนาบ่อน้ำบาดาล การวิเคราะห์แปลความหมายและประมวลผลข้อมูล การจัดทำระดับชั้นข้อมูลสารสนเทศทางอุทกธรณีวิทยา การจัดทำแบบจำลองทางธรณีวิทยาด้วยโปรแกรม GEOSCENE 3D การฝึกอบรมการใช้งานโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูปที่สามารถแสดงผลแบบ 3 มิติ การจัดทำแผนที่อุทกธรณีวิยาและแผนที่น้ำบาดาล มาตราส่วน 1:50,000 และการจัดประชุมสัมมนาประชาสัมพันธ์และฝึกอบรมโครงการให้แก่หน่วยงานท้องถิ่น เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาล และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด คาดว่าจะดำเนินโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จพร้อมให้บริการประชาชนภายในเดือนมิถุนายน 2560 นี้อย่างแน่นอน

ที่มาและภาพข่าวโดย : กองสื่อสารและการมีส่วนร่วม
 ***หากต้องการภาพถ่ายหรือเนื้อหาข่าวต้นฉบับเพื่อใช้ประกอบกิจกรรมอื่นๆ กรุณาติดต่อ กองสื่อสารและการมีส่วนร่วม โทรศัพท์ : 0 2666 7008