ข่าวสารนํ้าบาดาล

     รัฐบาลขอประชาชนคลายกังวล ฤดูแล้งนี้มีน้ำกินน้ำใช้เพียงพอ ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้ตั้งศูนย์อำนวยการน้ำบาดาลสกัดภัยแล้ง ปี 2560 แค่ประชาชน โทร. สายด่วน (Green Call) 1310 กด 4 แจ้งขอความช่วยเหลือด้านน้ำบาดาล เจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว พร้อมกันนี้ได้จับมืออีก 4 หน่วยงาน คือ กองทัพบก การประปาส่วนภูมิภาค การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดโครงการ “ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจช่วยภัยแล้ง” สนับสนุนจุดจ่ายน้ำ 103 แห่งทั่วประเทศ เพื่อบรรเทาปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคของประชาชนตลอดฤดูแล้ง

     ปัจจุบันสถานการณ์ภัยแล้งในประเทศไทยมักเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนของทุกปี โดยเป็นช่วงที่ภาวะอากาศมีความแห้งแล้งจากอุณหภูมิสูงสุดในเดือนเมษายน เป็นผลให้สภาพอากาศร้อนอบอ้าวและอากาศร้อนจัดเกือบทุกพื้นที่ของประเทศไทย ประกอบกับปริมาณน้ำฝนที่อยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าปกติและมีเฉพาะในบางพื้นที่ ทำให้ประชาชนขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และไม่มีน้ำเพื่อทำการเกษตรในพื้นที่ทั่วไป ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตและเกิดความเสียหายต่อการประกอบอาชีพของประชาชน ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ภัยแล้ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบหมายให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กำหนดเป็นมาตรการระยะสั้น และมาตรการระยะยาว เพื่อแก้ไขปัญหาพื้นที่แล้งซ้ำซากนอกเขตชลประทาน โดยมาตรการระยะสั้น คือ จัดตั้งศูนย์อำนวยการน้ำบาดาลเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาปัญหาขาดแคลนน้ำ ปี 2560 โดยให้ความสำคัญในการป้องกันและบรรเทาภาวะขาดแคลนน้ำเพื่อการบริโภคเป็นลำดับแรก และช่วยบรรเทาภาวะขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรตามสถานการณ์ เตรียมจุดจ่ายน้ำถาวร 103 แห่ง เพื่อเป็นแหล่งน้ำให้หน่วยงานต่างๆ นำไปแจกจ่ายให้ประชาชนที่ขาดน้ำ และสำหรับแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า ในพื้นที่เสี่ยง เร่งดำเนินโครงการระบบกระจายน้ำ 3,888 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งหากดำเนินการแล้วเสร็จ จะสามารถให้บริการประชาชนได้กว่า 368,000 ครัวเรือน มีพื้นที่ได้รับประโยชน์ ไม่น้อยกว่า 89,300 ไร่ และปริมาณน้ำที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้กว่า 149 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี รวมถึงเตรียมการช่วยเหลือและจัดหาแหล่งน้ำบาดาลสะอาดให้โรงพยาบาลที่เสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำสะอาด เนื่องจากน้ำเค็มหนุนสูง ส่วนมาตรการระยะยาว คือ เร่งดำเนินโครงการก่อสร้างระบบกระจายน้ำทั่วประเทศตามแผน 20 ปี ของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล จำนวน 40,609 โครงการ เพื่อให้ได้ปริมาณน้ำบาดาลใช้การได้ 5,763 ล้านลูกบาศก์เมตร ในปี 2579 

     นอกจากนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้ให้ความร่วมมือกับ 4 หน่วยงานหลัก ได้แก่ กองทัพบก การประปาส่วนภูมิภาค การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ผนึกกำลังพล รถบรรทุกน้ำ เครื่องจักร อุปกรณ์ แหล่งน้ำสะอาด ถังบรรจุและเก็บกักน้ำขนาด 1,500 ลิตร รวมถึงน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับยานพาหนะที่นำน้ำสะอาดเข้าไปแจกจ่ายในพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งและขาดแคลนน้ำ ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม – 30 กันยายน 2560 หรือจนกว่าสถานการณ์ภัยแล้งจะคลี่คลาย โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาลให้การสนับสนุนจุดจ่ายน้ำ จำนวน 103 แห่งทั่วประเทศ เพื่อใช้เป็นจุดแจกจ่ายน้ำบาดาลสะอาดให้แก่กองทัพบกที่มีกำลังพล พร้อมรถบรรทุกน้ำเข้าไปรับน้ำจากจุดจ่ายน้ำ และนำไปแจกจ่ายให้แก่ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยแล้ง โดยเมื่อวันอังคารที่ 28 มีนาคม 2560 นายสุพจน์  โตวิจักษณ์ชัยกุล อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล พร้อมด้วย พลเอกเฉลิมชัย  สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก นายสมภพ เต็งทับทิม รองผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค นายสมชาย  มนต์บุรีนนท์ รองผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค และนายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกันแถลงข่าวเปิดโครงการ “ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจช่วยภัยแล้ง” ประจำปี 2560 และปล่อยขบวนคาราวานช่วยเหลือและบรรเทาปัญหาภัยแล้งให้แก่ประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ  ณ กองบัญชาการกองทัพบก

     อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เปิดเผยว่า พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ภัยแล้งเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชน มาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 แล้ว โดยได้มีการตรวจสอบสภาพบ่อน้ำบาดาล เครื่องสูบน้ำบาดาล ระบบประปาบาดาล และระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำ ให้พร้อมใช้งานเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้ง ผนวกรวมกับศักยภาพของบุคลากรและอุปกรณ์เครื่องจักร ประกอบด้วยชุดเจาะบ่อน้ำบาดาล 94 ชุด ชุดเป่าล้างทำความสะอาดบ่อน้ำบาดาล 43 ชุด ชุดซ่อมระบบประปาและ เครื่องสูบ 43 ชุด   ชุดปรับปรุงคุณภาพน้ำเคลื่อนที่ 17 ชุด และรถบรรทุกน้ำ 84 คัน ทำให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลสามารถเข้าถึงทุกพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้งได้ภายใน 24 ชั่วโมง

     ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือด้านน้ำบาดาล สามารถติดต่อได้ที่ สายด่วนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (Green Call) 1310 กด 4 เพื่อกรมทรัพยากรน้ำบาดาลจะได้ประสาน ให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือต่อไป

ที่มาและภาพข่าวโดย : กองสื่อสารและการมีส่วนร่วม
 ***หากต้องการภาพถ่ายหรือเนื้อหาข่าวต้นฉบับเพื่อใช้ประกอบกิจกรรมอื่นๆ กรุณาติดต่อ กองสื่อสารและการมีส่วนร่วม โทรศัพท์ : 0 2666 7008