ข่าวสารนํ้าบาดาล

อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ตรวจเยี่ยมโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ฉะเชิงเทรา

  • อัพเดทวันที่ 14 มี.ค. 67
  • อ่าน 81
  • เผยแพร่โดย T ADMIN
Email

     รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญของการบริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพเพื่อตอบสนองความต้องการใช้น้ำในแต่ละพื้นที่ให้ประชาชนมีน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคอย่างทั่วถึง พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สั่งการให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาล สำรวจและพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อเพิ่มศักยภาพการแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้แก่ประชาชน

     วันที่ 14 มีนาคม 2567 นางอรนุช หล่อเพ็ญศรี อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ตรวจเยี่ยมโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (ระยะที่ 1) จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีนายวิจิตร สดสะอาด ผู้อำนวยการสำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 9 พร้อมเจ้าหน้าที่ ร่วมลงพื้นที่ติดตามการใช้งาน และหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำ ณ วัดสมานรัตนาราม ตำบลบางแก้ว อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา 

     พื้นที่ตำบลบางแก้ว มีลักษณะเป็นเกาะ มีแม่น้ำบางปะกงไหลผ่านล้อมรอบ หาแหล่งน้ำจืดยาก น้ำผิวดินมีคุณภาพกร่อย เค็ม ไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ เมื่อเข้าสู่ฤดูแล้งน้ำผิวดินที่กร่อยเค็มอยู่แล้วก็มีปริมาณน้อยลง ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของประชาชน นอกจากนี้พื้นที่ดังกล่าวยังเป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการ วัด โรงพยาบาล ชุมชน และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ดังนั้น กรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้สำรวจและจัดทำโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำในพื้นที่

     สำหรับโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งก่อสร้างในพื้นที่ของวัดสมานรัตนาราม ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาน้ำบาดาล โครงการศึกษาสำรวจและพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลระดับลึกในชั้นหินแกรนิตเพื่อการอุปโภคบริโภค ในพื้นที่ขาดแคลนน้ำเสี่ยงภัยแล้ง และมีปัญหาคุณภาพน้ำเค็ม ตำบลบางแก้ว อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยรูปแบบโครงการประกอบด้วย บ่อน้ำบาดาล 6 บ่อ ถังเหล็กเก็บน้ำความจุ 750 ลูกบาศก์เมตร 2 ถัง หอถังเหล็กเก็บน้ำชนิดรักษาแรงดันขนาดความจุ 300 ลูกบาศก์เมตร ถังกรองสนิมเหล็ก จุดจ่ายน้ำถาวร และอาคารศูนย์เรียนรู้ด้านน้ำบาดาล พร้อมระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำดื่ม และบ่อสังเกตการณ์ 1 บ่อ เพื่อติดตามคุณภาพน้ำและปริมาณน้ำ ปัจจุบันโครงการฯ สามารถพัฒนาน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ได้มากถึง 200,600 ลูกบาศก์เมตรต่อปี 

     จากนั้นอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้ตรวจเยี่ยมการเจาะน้ำบาดาลโครงการศึกษาสำรวจและประเมินศักยภาพน้ำบาดาลในพื้นที่หาน้ำยาก เพื่อเป็นแหล่งน้ำต้นทุน และสนับสนุนการบริหารจัดการน้ำเชิงพื้นที่ (ระยะที่ 2) ในพื้นที่วัดสมานรัตนาราม ซึ่งอยู่ระหว่างการเจาะสำรวจที่ระดับความลึก 288 เมตร