ข่าวสารนํ้าบาดาล

     กรมทรัพยากรน้ำบาดาลแถลงมาตรการเตรียมความพร้อมรับมือภัยแล้งปี 2560 ผ่านโครงการจัดหาน้ำบาดาลเพื่อการอุปโภคบริโภค น้ำโรงเรียน น้ำเพื่อการเกษตร และการสนับสนุนโครงการราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง ร่วมกับภาคีเครือข่ายกองทัพบก คาดการณ์ภัยแล้งปีนี้พี่น้องประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งน้ำสะอาดได้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค

     นางอรัญญา เฟื่องสวัสดิ์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เปิดเผยว่าสถานการณ์ปริมาณน้ำในเขื่อนหลักของประเทศไทยมีปริมาณน้ำในระดับน้อย และอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ปัจจุบันมีปริมาณน้ำใช้การรวม 17,458 ลูกบาศก์เมตร นอกจากนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักส่วนใหญ่อยู่ในภาวะน้ำน้อยเช่นเดียวกัน ปัจจุบัน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ได้ประกาศพื้นที่ภัยแล้งแล้ว 1 จังหวัด 3 อำเภอ 85 หมู่บ้าน ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยแล้ง กรมทรัพยากรน้ำบาดาล จึงได้เตรียมมาตรการความพร้อมรับมือภัยแล้ง ปี พ.ศ. 2560 อย่างเข้มแข็ง ในภาพรวมของทั้งประเทศ ประกอบด้วย 
     *ภารกิจการจัดหาน้ำบาดาลเพื่ออุปโภคบริโภค ได้แก่ 
     -    โครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค จำนวน    1,500 แห่ง โดยการเจาะบ่อน้ำบาดาล จำนวน 1 บ่อ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเชื่อมต่อกับระบบประปาเดิมของหมู่บ้าน คาดว่าประชาชนในพื้นที่เป้าหมายจะมีน้ำบาดาลใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค จำนวน 33 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ประชาชนได้รับประโยชน์ 225,000 ครัวเรือน ปัจจุบันผลการเจาะบ่อน้ำบาดาลแล้วเสร็จ จำนวน 413 แห่ง   คิดเป็น 27.53%

    -    โครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อสนับสนุนน้ำดื่มสะอาดให้กับโรงเรียนทั่วประเทศ จำนวน 688 แห่ง แบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ รูปแบบที่ 1 จำนวนนักเรียนและบุคลากร 300 รายขึ้นไป และรูปแบบที่ 2 จำนวนนักเรียนและบุคลากร 100 รายขึ้นไป โดยการเจาะบ่อน้ำบาดาล จำนวน 1 บ่อ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำและก่อสร้างระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำ (RO) ตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก (WHO) คาดว่านักเรียนและบุคลากรภายในโรงเรียน รวมถึงประชาชนใกล้เคียงจะมีน้ำอุปโภคบริโภค จำนวน 15 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ประชาชนได้รับประโยชน์ 61,600 ครัวเรือน ปัจจุบันผลการเจาะบ่อน้ำบาดาลแล้วเสร็จ จำนวน 438 แห่ง คิดเป็น 63.66%

    *ภารกิจการจัดหาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตร ได้แก่ 
      -    โครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรในพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้ง จำนวน 1,700 แห่ง แบ่งเป็น 3 รูปแบบ คือ รูปแบบที่ 1 สำหรับพื้นที่ 100 ไร่ เจาะบ่อน้ำบาดาล จำนวน 2 บ่อ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำไฟฟ้า ก่อสร้างระบบกระจายน้ำ พร้อมติดตั้งหอถังสูงขนาด 30 ลูกบาศก์เมตร รูปแบบที่ 2 สำหรับพื้นที่ 30 - 50 ไร่ เจาะบ่อน้ำบาดาล จำนวน 1 บ่อ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำแบบเทอร์ไบน์ เดินเครื่องด้วยเครื่องยนต์ต้นกำลังพร้อมวางท่อส่งน้ำพลาสติก และ รูปแบบที่ 3 (พลังงานแสงอาทิตย์) สำหรับพื้นที่ 80 ไร่ เจาะบ่อน้ำบาดาล 1 บ่อ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำไฟฟ้าโดยใช้ระบบไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ก่อสร้างระบบกระจายน้ำ พร้อมติดตั้งหอถังสูงขนาด 20 ลูกบาศก์เมตร คาดว่าเกษตรกรในพื้นที่เป้าหมายจะมีน้ำบาดาลเพื่อการเพาะปลูก จำนวน 100 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี พื้นที่ได้รับประโยชน์ 57,500 ไร่ ปัจจุบันผลการเจาะบ่อน้ำบาดาลแล้วเสร็จ จำนวน 469 บ่อ คิดเป็น 26.8%

    *โครงการระบบกระจายน้ำบาดาลด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ (One Village One Water Supply : OVOWS)  จำนวน 572 แห่ง เป็นการพัฒนาต่อยอดจากโครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อการเกษตร รูปแบบ 2 โดยการพัฒนาบ่อน้ำบาดาลที่มีศักยภาพปริมาณน้ำเพียงพอ และชุมชนมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งพร้อมจัดตั้งเครือข่ายบริหารจัดการ ซึ่งระบบดังกล่าวประกอบด้วย พัฒนาบ่อน้ำบาดาลที่มีอยู่พร้อมปรับเปลี่ยนเครื่องสูบน้ำแบบเทอร์ไบน์ซึ่งใช้เครื่องยนต์กำลังต้นในการสูบน้ำ เปลี่ยนเป็นเครื่องสูบไฟฟ้าโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ติดตั้งหอถังสูงขนาด 20 ลูกบาศก์เมตร เพื่ออุปโภคบริโภคและเกษตรกรรม และก่อสร้างระบบกระจายน้ำไปยังบ้านเรือนและพื้นที่ทำการเกษตร โดยโครงการระบบกระจายน้ำบาดาลด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ (One Village One Water Supply : OVOWS) จะช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคได้อย่างยั่งยืน ช่วยลดปัญหาขาดแคลนน้ำทำการเกษตรในพื้นที่ขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง เพิ่มพูนรายได้ ลดการย้ายถิ่นฐาน พัฒนาคุณภาพชีวิตและสุขอนามัยของประชาชน รวมทั้งยังเป็นการสนับสนุนใช้พลังงานสะอาดอีกด้วย (ปัจจุบันอยู่ระหว่างการขอจัดสรรงบประมาณ)

    *โครงการราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง  โดยการบูรณาการร่วมกันระหว่างกองทัพบก กรมทรัพยากรน้ำบาดาล การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพื่อร่วมกันให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาภัยแล้ง และขาดแคลนน้ำสะอาดสำหรับอุปโภคบริโภค โดยการผนึกกำลังพล  แหล่งน้ำบาดาล แหล่งน้ำประปา รถบรรทุกน้ำ กระแสไฟฟ้า น้ำมันเชื้อเพลิง เครื่องจักรอุปกรณ์ที่จำเป็นในการช่วยเหลือประชาชน ตั้งแต่เดือนมีนาคม – กันยายน 2560 หรือจนกว่าสถานการณ์ภัยแล้งจะคลี่คลาย โดยมีการปล่อยคาราวานเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2560ณ กองบัญชาการกองทัพบก พร้อมกันนี้ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้จัดเตรียมชุดเจาะบ่อน้ำบาดาล 94 ชุด ชุดเป่าล้างทำความสะอาดบ่อน้ำบาดาล 43 ชุด ชุดซ่อมแซมระบบประปาและเครื่องสูบน้ำ 43 ชุด ชุดปรับปรุงคุณภาพน้ำบาดาลเคลื่อนที่ 17 ชุด รถบรรทุกน้ำ 84 คัน จุดจ่ายน้ำถาวร 103 จุดทั่วประเทศ เพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้ง

    พร้อมกันนี้ยังมีพิธีรับมอบแกลลอนและขวดพลาสติกจากหน่วยงานภาคเอกชน ได้แก่  กลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) บริษัท พีทีทีโกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) บริษัท เอสซีจี พลาสติกส์ จำกัด เป็นแกลลอนบรรจุน้ำขนาด 5 ลิตร จำนวน 55,000 ใบ และบริษัท วีนิไทย จำกัด (มหาชน) เป็นขวดน้ำพลาสติก จำนวน 25,000 ขวด เพื่อให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลนำไปบรรจุน้ำดื่มสะอาดแจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่ประสบภัยแล้งประจำปี พ.ศ. 2560 พร้อมประกาศเจตนารมณ์ยินดีให้การสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคมเช่นเดียวกันนี้ต่อไป  

    นอกจากนี้ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ยังเน้นย้ำให้ประชาชนมีความมั่นใจในคุณภาพและปริมาณน้ำบาดาลเพื่ออุปโภคบริโภคตลอดฤดูแล้งนี้ได้อย่างแน่นอน พร้อมให้บริการประชาชนเข้าถึงทุกพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง  ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ สายด่วนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โทร. 1310 กด 4 ทุกวันและเวลาราชการ

ที่มาและภาพข่าวโดย : กองสื่อสารและการมีส่วนร่วม
 ***หากต้องการภาพถ่ายหรือเนื้อหาข่าวต้นฉบับเพื่อใช้ประกอบกิจกรรมอื่นๆ กรุณาติดต่อ กองสื่อสารและการมีส่วนร่วม โทรศัพท์ : 0 2666 7008