ข่าวสารนํ้าบาดาล

รมว.ทส. ร่วมปล่อยละอง-ละมั่งพันธุ์ไทยคืนสู่ธรรมชาติ พร้อมจัดประชุมเข้มเตรียมรับ ครม.สัญจร อีสานล่าง

  • อัพเดทวันที่ 23 ก.ค. 61
  • อ่าน 881
  • เผยแพร่โดย DGR Admin กรมทรัพยากรน้ำบาดาล
Email
อัลบั้มภาพ 16 ภาพ

     กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ปล่อยละอง-ละมั่งพันธุ์ไทยคืนสู่ป่าเพื่อความสมดุลของระบบนิเวศตามธรรมชาติ พร้อมทั้งเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระเกียรติพระชนมพรรษา 66 พรรษา 28 กรกฎาคม 2561 สร้างการมีส่วนร่วมโดยกลุ่มเยาวชน นิสิต นักศึกษา และเครืออนุรักษป่าร่วมสร้างแหล่งน้ำ สร้างโป่งเทียม และปลูกต้นรวมผึ้ง เพื่อสร้างแหล่งอาหารและพื้นที่สีเขียวให้กับป่า

     กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จัดพิธีปล่อยละอง-ละมั่งพันธุ์ไทย ไก่ฟ้าพญาลอ ไก่ฟ้าหลังขาว คืนสู่ธรรมชาติเพื่อรักษาความอุดมสมบูรณ์ของป่าอย่างสมดุล พร้อมกันนี้ยังเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 66 พรรษา 28 กรกฎาคม 2561 โดยมีการแสดงนิทรรศการปล่อยสัตว์ป่าคืนสู่ธรรมชาติโดยความร่วมมือจากจิตอาสาเครือข่ายอนุรักษ์ป่า เยาวชน นักเรียนนักศึกษา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนทั่วไป นอกจากร่วมกันปล่อยสัตว์ป่าคืนสู่ธรรมชาติแล้วยังมีการมอบเกียรติบัตรให้แก่พระครูอรุณ ปุณโญภาส ซึ่งเป็นพระผู้นำคนในท้องถิ่นดูแลรักษาพื้นที่ป่า พร้อมทั้งได้ร่วมกันปลูกต้นรวงผึ้งเพื่อเป็นอาหารสัตว์ป่า และร่วมกันสร้างแหล่งน้ำ สร้างโป่งเทียม ให้แก่สัตว์ป่าอีกด้วย

     หลังจากนั้นคณะรัฐมนตรีและคณะผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้เดินทางมาประชุมหัวหน้าส่วนราชการเพื่อจัดเตรียมการรับ ครม.สัญจร พื้นที่ภาคอีสานล่าง ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานีและอำนาจเจริญ ในวันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม 2561 ทั้งนี้ ครม.สัญจร มีกำหนดเยี่ยมชมพื้นที่เกษตรอินทรีย์บ้านหนองเม็ก หมู่ที่ 5 ตำบลคึมใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งเป็นพื้นที่ได้รับการสนับสนุน “โครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรในพื้นที่ประสบภัยแล้ง รูปแบบ 1” เมื่อปี พ.ศ. 2558 ซึ่งกลุ่มเกษตรอินทรีย์บ้านหนองเม็กประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นทั้งด้านเศรษฐกิจ โดยกลุ่มเกษตรกรมีรายได้อย่างสม่ำเสมอจากการจำหน่ายผักและผลไม้ส่งซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วประเทศ สร้างรายได้เฉลี่ยครอบครัวละ 40,000 - 50,000 บาทต่อเดือน รวมทั้งความสำเร็จทางด้านสังคม โดยในพื้นที่ดังกล่าวทุกคนในครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ลดปัญหาโยกย้ายถิ่นฐานและปัญหาในชุมชนต่างๆ นอกจากนี้การงดใช้สารเคมีในการเพาะปลูกพืชผักยังช่วยดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมไม่ให้เกิดมลพิษได้อีกด้วย

 

ที่มาและภาพข่าวโดย : กองสื่อสารและการมีส่วนร่วม
 ***หากต้องการภาพถ่ายหรือเนื้อหาข่าวต้นฉบับเพื่อใช้ประกอบกิจกรรมอื่นๆ กรุณาติดต่อ กองสื่อสารและการมีส่วนร่วม โทรศัพท์ : 0 2666 7008