ข่าวสารนํ้าบาดาล

     วันที่ 7 กรกฎาคม 2564 นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลลงพื้นที่พร้อมคณะของ รศ. ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ (อ.อ๊อด) อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อเก็บตัวอย่างดินและตัวอย่างน้ำบาดาลในบริเวณพื้นที่เกิดเหตุและพื้นที่ใกล้เคียงจากเหตุระเบิดและเพลิงไหม้ภายในโรงงานผลิตเม็ดโฟมและพลาสติก บริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ภายในซอยกิ่งแก้ว 21 ถนนกิ่งแก้ว ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อนำตัวอย่างดินและน้ำไปตรวจวัดคุณภาพ ก่อนแจ้งให้ประชาชนรับทราบ เพื่อสร้างความมั่นใจ และป้องกันอันตรายหากพบสารเคมีที่อาจปนเปื้อนในดินและน้ำ

     อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลกล่าวว่า จากกรณีที่มีรายงานข่าวเพลิงไหม้โรงงานผลิตเม็ดโฟมและพลาสติก และมีการระเบิดเกิดขึ้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ทำให้มีควันพิษลอยขึ้นเต็มท้องฟ้า ส่งผลให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ได้รับผลกระทบต่อสุขภาพเป็นอย่างมากนั้น นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีความห่วงใยเรื่องความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ จึงมอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องเข้าไปติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้ส่งเจ้าหน้าที่กองวิเคราะห์น้ำบาดาลและสำนักอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรน้ำบาดาล เข้าไปเก็บตัวอย่างดินและน้ำ (น้ำผิวดินและน้ำบาดาล) บริเวณพื้นที่โรงงานผลิตเม็ดโฟมและพลาสติก บริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด และพื้นที่โดยรอบในรัศมี 5 กิโลเมตร ได้แก่ จากสถานีบ่อสังเกตการณ์ของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล จำนวน 8 ตัวอย่าง ได้แก่ บริเวณ 1)วัดทุ่งลานนา 2)วัดคลองชวดลากข้าว 3)ชุมสายโทรศัพท์บางพลี และจากบ่อน้ำบาดาลเอกชน จำนวน 8 ตัวอย่าง รวม 16 ตัวอย่าง และเก็บตัวอย่างดินและน้ำเพิ่มเติมในพื้นที่รัศมี 10 กิโลเมตร จำนวน 35 ตัวอย่าง

     จากนั้นจะส่งตัวอย่างดินและน้ำให้คณะของรองศาสตราจารย์วีรชัย พุทธวงศ์ (อ.อ๊อด) อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อนำไปตรวจวิเคราะห์คุณภาพในห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ คาดว่าจะทราบผลภายใน 1-2 วัน พร้อมแจ้งให้ประชาชนได้รับทราบ หากผลตรวจอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความปลอดภัย ก็จะแจ้งให้ประชาชนสามารถเดินทางกลับไปยังที่พักอาศัยได้ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนในพื้นที่บริเวณโดยรอบจุดเกิดเหตุว่าจะสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติและปลอดภัยจากปัญหาสารเคมีปนเปื้อนในดินและน้ำ