กรุณากรอกฟอร์มให้ครบถ้วนเพื่อแจ้งคำถาม
ค่าใช้น้ำบาดาลและค่าอนุรักษ์น้ำบาดาล ควรชำระภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันเริ่มงวดถัดไป
หากเกินระยะเวลาที่กำหนด จะต้องชำระในอัตรา ดังนี้
1.กรณีชำระเกินกำหนด 1-30 วัน ปรับ 1.1 เท่า จากค่าบริการปกติ
(เช่น ค่าบริการปกติ 1,000 บาท ปรับ 1.1 เท่า เท่ากับ 1,100 บาท)
2.กรณีชำระเกินกำหนด 31-60 วัน ปรับ 1.2 เท่า จากค่าบริการปกติ
(เช่น ค่าบริการปกติ 1,000 บาท ปรับ 1.2 เท่า เท่ากับ 1,200 บาท)
3.กรณีชำระเกินกำหนด 61-90 วัน ปรับ 1.3 เท่า จากค่าบริการปกติ
(เช่น ค่าบริการปกติ 1,000 บาท ปรับ 1.3 เท่า เท่ากับ 1,300 บาท)
4.กรณีชำระเกินกำหนด 91 วัน ปรับ 2 เท่า จากค่าบริการปกติ
(เช่น ค่าบริการปกติ 1,000 บาท ปรับ 2 เท่า เท่ากับ 2,000 บาท)
ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2540) ออกตามความในพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. 2520 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 4 กำหนดให้ท้องที่ที่ไม่มีน้ำประปาใช้ ให้ผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลได้รับยกเว้นค่าใช้น้ำบาดาล ดังต่อไปนี้
1. การใช้น้ำบาดาลเพื่อการอุปโภคหรือบริโภค ทั้งนี้ ไม่รวมถึงการใช้น้ำบาดาลของโรงงานอุตสาหกรรม
2. การใช้น้ำบาดาลเพื่อการเพาะปลูก
3. การใช้น้ำบาดาลเพื่อการเลี้ยงสัตว์ เฉพาะในส่วนที่ไม่เกินวันละห้าสิบลูกบาศก์เมตร
ดังนั้น หากโรงเรียนตั้งอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวข้างต้น ก็จะได้รับการยกเว้นค่าใช้น้ำบาดาลตามกฎกระทรวง ฯ ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นการใช้น้ำบาดาลเพื่อการอุปโภคหรือบริโภค
ส่วนราชการได้รับการยกเว้นค่าใช้น้ำบาดาล หากอยู่ในท้องที่ที่ไม่มีน้ำประปาใช้ และเป็นการใช้น้ำบาดาล
เพื่อการอุปโภคหรือบริโภค ซึ่งหลักเกณฑ์ดังกล่าวถูกกำหนดไว้ในกฎกระทรวง ฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2540)
ออกตามความในพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. 2520 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
1. ชำระที่ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขา (เงินสด/แคชเชียร์เช็ค) กรณีชำระภายในกำหนด
2. สำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด กรณีชำระเกินกำหนด
ค่าอนุรักษ์น้ำบาดาล คือ เงินที่เรียกเก็บจากผู้ใช้น้ำบาดาลเพิ่มเติมจากค่าใช้น้ำบาดาล
เฉพาะในเขตพื้นที่วิกฤตการณ์น้ำบาดาล ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม โดยต้องชำระค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลอัตราลูกบาศก์เมตรละ
4.50 บาท (สี่บาทห้าสิบสตางค์) ดังนี้
1. ใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลประเภทธุรกิจ ซึ่งบ่อน้ำบาดาลตั้งอยู่ในท้องที่ที่มีน้ำประปาใช้และไม่มีน้ำประปาใช้ (การประปานครหลวง / การประปาส่วนภูมิภาค)
2. ใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลประเภทเกษตรกรรมเลี้ยงสัตว์ที่ใช้น้ำบาดาลเฉพาะในส่วนที่เกินกว่าวันละห้าสิบลูกบาศก์เมตร
3. ยกเว้นค่าอนุรักษ์น้ำบาดาล ในการใช้น้ำบาดาลเพื่อเกษตรกรรมเลี้ยงสัตว์ เฉพาะในส่วนที่ไม่เกินวันละ
ห้าสิบลูกบาศก์เมตร รวมทั้งการใช้น้ำบาดาลเพื่อเกษตรเพาะปลูก และการใช้น้ำบาดาลเพื่อการอุปโภคหรือบริโภค ทั้งนี้ ไม่รวมถึงการใช้น้ำบาดาลของโรงงานอุตสาหกรรม
1. จัดเก็บทุกรายทุกประเภท (ไม่ได้รับการยกเว้น หรือได้รับการลดหย่อนค่าใช้น้ำบาดาล) ถ้าบ่อน้ำบาดาลตั้งอยู่ในท้องที่ที่มีการบริการของการประปานครหลวง หรือการประปาส่วนภูมิภาค และสามารถเชื่อมต่อระบบประปาได้
2. ยกเว้นค่าใช้น้ำบาดาล ถ้าบ่อน้ำบาดาลตั้งอยู่ในท้องที่ที่ไม่มีน้ำประปาใช้ ได้แก่
2.1 การใช้น้ำบาดาลเพื่อการอุปโภคหรือบริโภค ทั้งนี้ ไม่รวมถึงการใช้น้ำบาดาลของโรงงานอุตสาหกรรม
2.2 การใช้น้ำบาดาลเพื่อการเพาะปลูก
2.3 การใช้น้ำบาดาลเพื่อการเลี้ยงสัตว์ เฉพาะในส่วนที่ไม่เกินวันละห้าสิบลูกบาศก์เมตร
3. ลดหย่อนค่าใช้น้ำบาดาล ถ้าบ่อน้ำบาดาลตั้งอยู่ในท้องที่ที่ไม่มีน้ำประปาใช้ และไม่ได้รับยกเว้นค่าใช้
น้ำบาดาล ได้แก่
3.1 การใช้น้ำบาดาลเพื่อการเลี้ยงสัตว์ ให้คำนวณปริมาณน้ำบาดาล เพื่อการคิดค่าใช้น้ำบาดาลเพียงร้อยละสามสิบของปริมาณน้ำบาดาลที่ใช้ หรือปริมาณน้ำบาดาลสูงสุดที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตใช้น้ำบาดาล หรือ ที่ประเมินได้แล้วแต่กรณี
3.2 การใช้น้ำบาดาลของโรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้วัตถุดิบจากผลิตผลการเกษตรตามประเภทและชนิดที่รัฐมนตรีกำหนด ให้คำนวณปริมาณน้ำบาดาล เพื่อการคิดค่าใช้น้ำบาดาลเพียงร้อยละสามสิบของปริมาณน้ำบาดาลที่ใช้ หรือปริมาณน้ำบาดาลสูงสุดที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตใช้น้ำบาดาล หรือที่ประเมินได้แล้วแต่กรณี
3.3 กรณีนอกจาก 3.1 และ 3.2 ให้คำนวณปริมาณน้ำบาดาล เพื่อการคิดค่าใช้น้ำบาดาลเพียงร้อยละ
เจ็ดสิบห้าของปริมาณน้ำบาดาลที่ใช้ หรือปริมาณน้ำบาดาลสูงสุดที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตใช้น้ำบาดาล
หรือที่ประเมินได้แล้วแต่กรณี
ทั้งนี้ การเรียกเก็บค่าใช้น้ำบาดาล แบ่งออกเป็น 2 เขต ได้แก่
สามารถแจ้งข้อมูลผ่านระบบรับเรื่องร้องเรียน e-Petition ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (http://petition.mnre.go.th ) หรือ หมายเลข 1310 กด 1 และสำนักควบคุมกิจการน้ำบาดาล
กรมทรัพยากรน้ำบาดาล หมายเลขโทรศัพท์ 0-2666-7327 ,0-2666-7329
แนวทางที่ 1 ให้เจ้าของที่ดินแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับความเป็นมาของบ่อน้ำบาดาล และขอดำเนินการ
อุดกลบบ่อน้ำบาดาลให้ถูกต้องตามกฎหมาย
แนวทางที่ 2 หากพนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่ทราบว่าบ่อน้ำบาดาลเป็นของบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ที่เคยประกอบกิจการน้ำบาดาลมาก่อนเจ้าของที่ดินปัจจุบัน (ที่เคยมีใบอนุญาตหรือไม่เคยมีใบอนุญาต)
ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งให้ผู้ประกอบกิจการน้ำบาดาลดังกล่าวดำเนินการอุดกลบบ่อน้ำบาดาลให้ถูกต้องตามกฎหมาย
กรณีบ่อน้ำบาดาลที่เจาะไปแล้ว ภายหลังตรวจพบว่าไม่ได้ขอรับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลจะต้องดำเนินคดี โดยการบันทึกเปรียบเทียบคดีความผิดตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. 2520 ฐานเจาะ
น้ำบาดาล และใช้น้ำบาดาลโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลหรือผู้ซึ่งอธิบดี
กรมทรัพยากรน้ำบาดาลมอบหมาย เว้นแต่พิจารณาแล้ว พบว่าบ่อน้ำบาดาลดังกล่าวมีอายุเกินกว่า 5 ปี
ก็ให้ดำเนินการเปรียบเทียบคดีฐานใช้น้ำบาดาลโดยไม่ได้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาล จากนั้นต้องแจ้งให้ผู้กระทำความผิดขอรับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลให้ถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยน้ำบาดาล
ถ้าเป็นที่ดินของราชการก็ต้องให้หน่วยราชการนั้นอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ก่อน หรือถ้าเป็นที่ดินส่วนบุคคล
ก็ต้องให้เจ้าของที่ดินยินยอมให้ใช้ประโยชน์โดยจัดทำเอกสารยินยอม เพื่อประกอบการขออนุญาตใช้
น้ำบาดาลก่อน จึงจะมาขออนุญาตใช้ได้ ดังนั้น ต้องทราบก่อนว่าที่ดินเป็นของใคร และต้องได้รับความยินยอมจากผู้มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในที่ดินนั้น ๆ
กรณีที่ติดต่อได้ ให้เจ้าของบ่อน้ำบาดาลซึ่งเป็นผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลเดิมมาโอนใบอนุญาตให้ผู้ซื้อ
รายใหม่ ถ้าติดต่อไม่ได้ให้ผู้ครอบครองที่ดินรายใหม่ยื่นคำขอรับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลต่อพนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่ โดยให้เจ้าหน้าที่ยกเลิกใบอนุญาตฉบับเดิม
หากผู้ใช้น้ำบาดาล พบว่า เครื่องวัดปริมาณน้ำประจำบ่อน้ำบาดาลชำรุด ตัวเลขไม่หมุน หรือไม่สามารถ
อ่านค่าปริมาณที่ใช้จริงได้ ต้องรีบแจ้งต่อพนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่ หรือพนักงานเจ้าหน้าที่โดยด่วน และรีบดำเนินการซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่ อย่าปล่อยทิ้งไว้ หรือเพิกเฉย เพราะหากพนักงานเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบพบเห็นในภายหลัง อาจต้องเสียค่าใช้น้ำมากกว่าปกติ เนื่องจากจะต้องถูกประเมินปริมาณน้ำ
ตามใบอนุญาตที่กำหนดไว้สูงสุด และไม่รับรองการรายงานการใช้น้ำตามแบบ นบ.11 ย้อนหลังด้วย